นายกรัฐมนตรีย้ำต้องสร้างความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์

นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้นางสาวธนวดี ท่าจีน ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง นำเครือข่ายองค์กรปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ เข้าพบเพื่อนำเสนอปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนและสำคัญตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้
วัน นี้ (14 ธ.ค.53) เวลา 08.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้นางสาวธนวดี ท่าจีน ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง นำเครือข่ายองค์กรปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนที่ทำงานด้านเด็กและสตรี และการต่อต้านคอรัปชั่น จำนวน 20 คน เข้าพบ เพื่อนำเสนอปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนและสำคัญตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้ ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวมีความเกี่ยวเนื่องกับแรงงานต่างดาวที่เข้า มาทำงานในประเทศไทยซึ่งมีทั้งเด็กและสตรี รวมไปถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ ด้วย ตลอดจนปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปัญหายาเสพติด การพนัน การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรของเยาวชน เป็นต้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวยังขาดการบังคับใช้กฎหมายในการปกป้องเด็ก สตรี แรงงานข้ามชาติจากกระบวนการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง

ดังนั้นจึงขอ นำเสนอมาตรการต่างๆ ที่จะให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้ 1.หากพบว่าคดีการค้ามนุษย์นั้นมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำ ผิด เช่น การแสวงหาประโยชน์ทางเพศ พรากผู้เยาว์ ฯลฯ ให้ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดินร้ายแรงและความผิดทางวินัย ให้ออกจากราชการชั่วคราวเพื่อป้องกันการแทรกแซง และให้ยกระดับเป็นคดีพิเศษรวมทั้งขอเพิ่มมาตรการให้สภาทนายความหรือนัก กฎหมายด้านการค้ามนุษย์เข้ามาร่วมตรวจสอบการดำเนินคดีพิเศษเพื่อให้เกิดความ เป็นธรรมและโปร่งใส เช่น กรณีคาราโอเกะชนาทิปจังหวัดลพบุรีกับการค้าเด็กหญิงชาวลาว

2.รัฐบาล ต้องเพิ่มมาตรการ กระตุ้นจิตสำนึก ศีลธรรม ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องภายใต้ พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 2551 และหากพบเจ้าหน้าที่รัฐคนใดเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ต้องมีการดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด และ3.ในฐานะที่นายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระดับชาติ ขอให้มีกลไกการติดตาม และรายงานความก้าวหน้า คดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ เพื่อแสดงถึงสถิติที่สะท้อนสถานการณ์จริงและความโปร่งใสให้ประชาชนได้รับ ทราบ โดยการจัดเวทีประชุมกับเครือข่ายปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์/เครือข่าย ภาคประชาชนต่อต้านทุจริตคอรัปชั่น เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงในทุก 2 เดือน และเพื่อทราบถึงความก้าวหน้าการบังคับใช้กฎหมาย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ว่า ตรงนี้จะมีคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว 2 ชุด ซึ่งเกิดขึ้นโดยกฎหมาย ซึ่งจากการที่ตนได้มีการประชุมมาหลายครั้ง ปัญหาที่ยังต้องทำงานกันมากคือการสร้างความเข้าใจของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการค้ามนุษย์จะมีความผิดฐานอื่น อยู่ด้วย เมื่อไปจับกุมและดำเนินคดีก็ไม่ได้นึกถึงมิติเรื่องการค้ามนุษย์ทำให้มีการ ดำเนินการตามกฎหมายตามกระบวนการปกติซึ่งตรงนี้ภายหลังได้มีการกำชับไปว่า เมื่อใดก็ตามที่มีกรณีการค้ามนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าว ผู้หญิง ประมง ฯลฯ จะต้องแจ้งมายังหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการค้ามนุษย์ด้วย ซึ่งหน่วยงานที่ดูแลเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์เบื้องต้นคือกระทรวงวการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ได้มีการทำงานในเรื่องของการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายซึ่งขณะนี้ก็ดี ขึ้นโดยลำดับ เพียงแต่ปัญหาในเรื่องการดำเนินคดียังเป็นปัญหาอยู่ เนื่องจากกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ไม่ได้มีอำนาจเรื่องดำเนินคดีดังกล่าวซึ่งหากเจ้าหน้าที่ที่ไปดำเนินการไม่ บอกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวก็จะทำให้เข้าไปดูแลเฉพาะผู้เสียหายแต่ตัว คดีหลุดไป ดังนั้นจึงได้มีการเน้นย้ำในเรื่องกลไกที่จะมาเชื่อมโยงการปฏิบัติงานดัง กล่าว ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติดที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นั้นก็จะไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งถึงบทลงโทษ

สำหรับ เรื่องการฝึกอาชีพให้เด็กและเยาวชนที่อยู่นอกระบบการศึกษาและไม่มีงานทำนั้น เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ขณะนี้แผนเรื่องการปฏิรูปการศึกษาพยายามจะดูแลเรื่องของเด็กที่ไม่ได้ศึกษา ในระบบว่าจะมีทางเลือกอย่างไรในการให้เด็กและเยาวชนดังกล่าวฝึกอาชีพ อย่างไรก็ตามหากตัวแทนเครือข่ายต้องการเสนอแนะเรื่องอะไรก็สามารถเสนอผ่าน คณะกรรมการ 2 คณะดังกล่าวเข้ามาอีกทางหนึ่งได้

————————-กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

วิไลวรรณ/รายงาน

ที่มา: http://media.thaigov.go.th/pageconfig/viewcontent/viewcontent1.asp?pageid=471&directory=1779&contents=52447