เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ร่วมประชุมกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกหน่วยคลินิกสิทธิมนุษยชนเคลื่อนที่ ครั้งที่ 1
|
วันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2567 คุณบุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ กรรมการและเลขานุการ ว่าที่ร้อยตรีวัชรวิชญ์ วุฒิพัชระพัชร์ คุณนันทวุฒิ แหบคงเหล็ก และคุณเอ มา โช ตัวแทนเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ร่วมประชุมกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกหน่วยคลินิกสิทธิมนุษยชนเคลื่อนที่ ครั้งที่ 1 ภายใต้โครงการคลินิกสิทธิมนุษยชน เรื่อง สิทธิแรงงาน กรณีแรงงานไทยถูกหลอกไปทำงานในต่างประเทศ ได้รับค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรมและตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ณ โรงแรมเลิศนิมิตร อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ผู้เข้าร่วมเป็นแรงงานไทยประมาณ 120 คน
โดยว่าที่ร้อยตรีวัชรวิชญ์ วุฒิพัชระพัชร์ ได้รับมอบหมายจากนายสมชาย หอมลออ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ ให้เป็นวิทยากร อภิปรายหัวข้อ “สิทธิแรงงานและบทบาทของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ” กับคุณสุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ทั้งนี้ได้แนะนำวัถตุประสงค์ขององค์กร การให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย ส่งเสริมให้แรงงานเข้าถึงสิทธิมนุษยชน สิทธิตามกฎหมาย สิทธิในกระบวนการยุติธรรม การให้ความช่วยเหลือกับแรงงานข้ามชาติ 3 สัญชาติ ได้แก่ ลาว กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งจากสถิติพบว่าทางมูลนิธิฯได้รับการร้องเรียนจากแรงงานข้ามชาติ 3 อันดับแรก เป็นเรื่องสิทธิแรงงาน สิทธิกองทุนประกันสังคม และสิทธิกองทุนเงินทดแทน รวมถึงการลงพื้นที่ให้ความรู้ในชุมชนแรงงาน จัดอบรมแกนนำนักกฎหมาย เป็นต้น
ต่อมากล่าวถึงสิทธิแรงงานตามพรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ได้แก่ สิทธิแรงงานด้านค่าจ้างและสวัสดิการ สิทธิด้านชั่วโมงการทำงานและวันหยุด สิทธิด้านการเลิกจ้างและค่าชดเชย สิทธิการลา สิทธิด้านการคุ้มครองแรงงานหญิงและเด็ก สิทธิในการร้องทุกข์ สิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง รวมทั้งสิทธิกองทุนประกันสังคมและสิทธิกองทุนเงินทดแทน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมเข้าใจถึงบริบทของกฎหมาย โดยผู้เข้าร่วมประชุมสนใจและขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ให้ติดตามการร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่รัฐ การช่วยเหลือทางคดีแก่ผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ และช่องทางการร้องเรียนขอความช่วยเหลือและให้มูลนิธิฯ ช่วยเป็นองค์กรกลางผลักดันให้ภาครัฐทำงานบูรณาการให้ความช่วยเหลือกับแรงงานไทยที่ถูกหลอกให้ไปทำงานเก็บเบอรี่ในประเทศสวีเดน ประเทศฟินแลนด์ เป็นต้น
ภายหลังการอภิปรายเสร็จ มีผู้เข้าร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อไปทำงานต่างประเทศ เข้าขอความช่วยเหลือและให้ช่วยติดตามคดีกับพนักงานสอบสวนซึ่งตนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้ว รวมทั้งขอคำปรึกษาทางกฎหมายในคดีที่ฟ้องนายหน้าที่หลอกลวง โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯจะติดตามคดีและให้ความช่วยเหลือต่อไป