ใบแจ้งข่าว: แรงงานสัญชาติเมียนมาถูกนายจ้างฉ้อโกง
|

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 แรงงานสัญชาติเมียนมาได้ร้องต่อมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาเนื่องจากลูกจ้างถูกนายจ้างฉ้อโกงเงินประกันตัวที่ลูกจ้างได้มอบให้นายจ้างเพื่อเป็นเงินประกันตัวเป็นเงินจำนวน 85,000 บาท แต่นายจ้างได้ฉ้อโกงเงินของลูกจ้างไป เจ้าหน้าที่และทนายความมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา จึงได้นำลูกจ้างเข้าสู่กลไกการให้ความช่วยเหลือดังนี้
- วันที่ 5 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่และทนายความมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาได้สอบข้อเท็จจริงลูกจ้างและโทรเจรจากับนายจ้าง เป็นผลให้นายจ้างจ่ายเงินคืนให้ลูกจ้างจำนวน 30,000 บาทในวันดังกล่าว และในส่วนที่เหลือจะผ่อนชำระให้สัปดาห์ละ 10,000 บาท จนกว่าจะครบ ต่อมานายจ้างไม่ชำระ
- วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ทนายความมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ได้ยื่นฟ้องนายจ้างในข้อหาฉ้อโกงและเรียกเงินคืนต่อศาลแขวงภูเก็ต จำนวนทุนทรัพย์ 55,000 บาท
- วันที่ 5 มิถุนายน 2567 ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง เจ้าหน้าที่และทนายความมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาไปศาล ศาลสั่งคดีมีมูลจึงประทับรับฟ้องไว้พิจารณา
- วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ศาลนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การ ตรวจพยานหลักฐานเพื่อกำหนดวันสืบพยาน ในวันดังกล่าวจำเลยให้การรับสารภาพและเนื่องจากคดีนี้เป็นความผิดอันยอมความได้จึงไกล่เกลี่ยและสามารถตกลงกันได้ และจำเลยจะชำระเงินคืนให้แก่โจทก์โดยการผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือนรวม 6 งวด งวดละไม่น้อยกว่า 9,200 บาท โดยเริ่มชำระงวดแรกในวันที่ 5 สิงหาคม 2567 และงวดต่อไปชำระทุกวันที่ 5 ของทุกเดือนและจะชำระให้ครบถ้วนในวันที่ 5 มกราคม 2568 โดยวิธีการโอนเงินเข้าบัญชีโจทก์ เมื่อจำเลยชำระเสร็จสิ้นโจทก์จะถอนฟ้อง หากจำเลยผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไป ข้อตกลงเป็นอันยกเลิก จำเลยยอมให้ศาลพิพากษาได้ทันที ศาลจึงเลื่อนไปนัดฟังผลการชำระหนี้หรือคำพิพากษาในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567
- วันที่ 9 สิงหาคม 2567 จำเลยชำระเงินจำนวน 9,200 บาท
- วันที่ 5 กันยายน 2567 จำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้
- วันที่ 19 กันยายน 2567 ทนายความมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษา ศาลนัดฟังผลการชำระหนี้หรือคำพิพากษาวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567
- วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ศาลนัดฟังผลการชำระหนี้หรือคำพิพากษา คงเหลือหนี้ที่จำเลยต้องชำระให้แก่โจทก์ 45,800 บาท ศาลเห็นว่าให้โอกาสจำเลยชำระหนี้หลายครั้งแล้วแต่ผิดนัดไม่ชำระตามข้อตกลงจึงเห็นควรมีคำพิพากษาต่อไป มีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจความประพฤติจำเลย นัดฟังคำพิพากษาหรือรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยในวันที่ 21 มกราคม 2568
- วันที่ 21 มกราคม 2568 นัดฟังคำพิพากษาหรือรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลย ในวันดังกล่าวจำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 20,000 บาท คงเหลือ 25,800 บาท ส่วนที่เหลือจะชำระภายในวันที่ 14 มีนาคม 2568 เลื่อนไปนัดฟังผลการชำระหนี้หรือคำพิพากษาในวันที่ 14 มีนาคม 2568
- วันที่ 14 มีนาคม 2568 นัดฟังผลการชำระหนี้หรือคำพิพากษา ในวันดังกล่าวจำเลยได้ชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 25,800 บาท ครบถ้วน ทนายความมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาจึงได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
——————————————————————
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา
info@hrdfoundation.org