EP 2: เจาะเรื่อง สิทธิแรงงานและกฎหมายแรงงานในไทย กับกลไกสำคัญอย่าง กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ช่วยแรงงานยามถูกเลิกจ้างหรือละเมิดสิทธิ์ พร้อมกรณีศึกษาจริงของแรงงาน 35 คน ที่ชนะคดีศาลฎีกาและได้รับเงินชดเชยรวมกว่า 900,000 บาท อ่านต่อ: https://hrdfoundation.org/?p=7487
ในตอนนี้ของ Power Labor Podcast เราเจาะเรื่อง เงินสงเคราะห์ลูกจ้าง ผ่านกรณีศึกษาของแรงงาน 35 คน ที่ทำงานในบริษัทรับเหมาทำความสะอาดโรงพยาบาล จ.เชียงใหม่ แต่ไม่ได้รับค่าจ้างเพราะบริษัทปิดตัวและหายไป การต่อสู้ทางกฎหมายของพวกเขาสะท้อนถึง ปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงาน และความสำคัญของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างในฐานะกลไกช่วยเหลือ
ร่วมพูดคุยกับ ทนาย ปสุตา ชื่นขจร (ทนายกิ่ง) นักกฎหมายด้านสิทธิแรงงาน ที่มาให้ความรู้เรื่องขั้นตอนการเข้าถึงสิทธิ และประเด็นปัญหาที่แรงงานมักพบเจอ พร้อมเคล็ดลับในการใช้สิทธิอย่างถูกต้องกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างคืออะไร?
ทนาย ปสุตา กล่าวว่า กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างจัดตั้งขึ้นภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง เพื่อเป็น ตาข่ายรองรับทางสังคม สำหรับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกแล้วนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างหรือค่าชดเชยตามกฎหมาย กองทุนครอบคลุมทั้งค่าจ้างและค่าชดเชย ทำให้ลูกจ้างสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้
วิธีการเข้าถึงกองทุน การขอรับเงินจากกองทุนไม่ใช่การจ่ายอัตโนมัติ แตกต่างจากประกันสังคม โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ นายจ้างต้องไม่จ่ายค่าจ้างหรือค่าชดเชยตามกฎหมาย ขั้นตอนประกอบด้วย
- ยื่นคำร้องต่อ พนักงานตรวจแรงงาน ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประจำเขต/จังหวัด
- พนักงานตรวจแรงงานสอบสวนและออกคำสั่งให้นายจ้างจ่าย
- หากนายจ้างไม่จ่าย ลูกจ้างสามารถยื่นขอรับเงินสงเคราะห์จากกองทุน
- กองทุนพิจารณาจ่ายเงินในสองกรณี ค่าจ้าง – คณะกรรมการกองทุนพิจารณา, ค่าชดเชย – ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณา
เอกสารประกอบการยื่นคำร้อง ได้แก่ คำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน เอกสารประจำตัว และแบบฟอร์มแสดงความเดือดร้อน สำหรับแรงงานข้ามชาติ อาจมีปัญหาเรื่องเอกสารหรือชื่อนายจ้างที่ไม่ตรงกัน
ทนายยังเน้นว่า นิยาม “ลูกจ้าง” ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ลูกจ้าง หมายถึงผู้ทำงานให้กับนายจ้างโดยได้รับค่าจ้างตอบแทน ไม่จำกัดสัญชาติ หากเข้าข่ายลูกจ้างตามกฎหมาย ก็มีสิทธิ์ยื่นขอรับเงินจากกองทุนได้
ยกกรณีศึกษา: แรงงาน 35 คนชนะคดีศาลฎีกา
ในช่วงปี 2563–2564 แรงงานกว่า 30 คน ซึ่งเป็นพนักงานทำความสะอาดโรงพยาบาลรัฐบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้รับค่าจ้างเพราะบริษัทปิดตัว เมื่อยื่นขอรับเงินจากกองทุน แรงงานไทยได้รับเงินทันที แต่แรงงานข้ามชาติถูกปฏิเสธ พนักงานตรวจแรงงานอ้าง “หนังสือเวียนภายใน” ที่ระบุว่าต้องมีเอกสารครบถ้วนและชื่อนายจ้างตรงกับใบอนุญาตทำงาน
มูลนิธิฯ ฟ้องคณะกรรมการกองทุน ผู้ว่าราชการจังหวัด และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผลคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ยืนยันว่าการอ้างหนังสือเวียนภายในไม่ชอบด้วยกฎหมาย ลูกจ้างทุกคนมีสิทธิ์ได้รับเงิน โดยแรงงานทั้ง 35 คนได้รับเงินชดเชยรวมประมาณ 900,000 บาท หลังการต่อสู้คดี 5 ปี
ผลกระทบและบทเรียนจากคดีแรงงาน 35 คน
ทนายปศุตา ได้ชี้ว่าคำพิพากษาศาลฎีกา นั้น ศาลยืนยัน หลักการคุ้มครองแรงงานตามกฎหมาย ชัดเจน และสร้างแนวทางให้กระทรวงแรงงานไม่สามารถใช้หนังสือเวียนภายในเป็นฐานออกคำสั่ง พร้อมเสริมพลังให้ลูกจ้างรู้สิทธิของตน แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานได้แก้ไขระเบียบกองทุน เพิ่มเงื่อนไขให้แรงงานข้ามชาติต้องมีเอกสารครบ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ฉะนั้น มูลนิธิฯ จึงเห็นว่าควรฟ้องศาลปกครองเพื่อเพิกถอนระเบียบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างอุทธรณ์
บทเรียนเชิงนโยบาย รัฐไทยต้องยอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจของเราต้องพึ่งแรงงานในงาน 3D (Dirty, Difficult, Dangerous) การละเลยสิทธิแรงงานข้ามชาติส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และรัฐควรคุ้มครองแรงงานทุกคนอย่างเท่าเทียม พร้อมมาตรการช่วยเหลือทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
Quotes ทนายปศุตา
- แม้เรื่องนี้ดูเหมือนไกลตัว แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่มั่นคง
- อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในสิทธิของตนเอง การรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องสามารถสร้างอำนาจต่อรองได้ และหวังว่ากรณีนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้สังคมไทยก้าวหน้าด้านสิทธิมนุษยชนต่อไป



